Monday, October 29, 2007

กาพย์เห่ชมเครื่องคาว

๏ แกงไก่มัสมั่นเนื้อ นพคุณ พี่เอย
หอมยี่หร่ารสฉุน เฉียบร้อน
ชายใดบริโภคภุญช์ พิศวาส หวังนา
แรงอยากยอหัตถ์ข้อน อกให้หวนแสวง ๚

มัสมั่นแกงแก้วตา
หอมยี่หร่ารสร้อนแรง
ชายใดได้กลืนแกง
แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา

ยำใหญ่ใส่สารพัด
วางจานจัดหลายเหลือตรา
รสดีด้วยน้ำปลา
ยี่สุ่นล้ำย้ำยวนใจ

ตับเหล็กลวกล่อนต้ม
เจือน้ำส้มโรยพริกไทย
โอชาจะหาไหน
ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง

หมูแนมแหลมเลิศรส
พร้อมพริกสดใบทองหลาง
พิศห่อเห็นรางชาง
ห่างห่อหวนป่วนใจโหย

ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น
วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย
รสทิพย์หยิบมาโปรย
ฤๅจะเปรียบเทียบทันขวัญ

เทโพพื้นเนื้อท้อง
เป็นมันย่องล่องลอยมัน
น่าซดรสครามครัน
ของสวรรค์เสวยรมย์

๏ ความรักยักเปลี่ยนท่า
ทำน้ำยาอย่างแกงขม
กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลม
ชมไม่วายคล้ายคล้ายเห็น

ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ
รสพิเศษใส่ลูกเอ็น
ใครหุงปรุงไม่เป็น
เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ

๏ เหลือรู้หมูป่าต้ม
แกงคั่วส้มใส่ระกำ
รอยแจ้งแห่งความขำ
ช้ำทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม

๏ ช้าช้าพล่าเนื้อสด
ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม
คิดความยามถนอม
สนิทเนื้อเจือเสาวคนธ์

ล่าเตียงคิดเตียงน้อง
นอนเตียงทองทำเมืองบน
ลดหลั่นชั้นชอบกล
ยลอยากนิทรคิดแนบนอน

๏ เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า
รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน
เจ็บไกลในอาวรณ์
ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง

รังนกนึ่งน่าซด
โอชารสกว่าทั้งปวง
นกพรากจากรังรวง
เหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน

ไตปลาเสแสร้งว่า
ดุจวาจากระบิดกระบวน
ใบโศกบอกโศกครวญ
ให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ

ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง
เป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหน
ผักหวานซ่านทรวงใน
ใคร่ครวญรักผักหวานนาง ๚

No comments: