Wednesday, September 12, 2007

หนักใจ

เหมือนวันนั้น...
ที่เคยลาออก
แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว
มันหนักใจ
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
แค่วันนี้ "ยัง"ไม่ได้ร้องไห้มากมาย
อย่างวันนั้น

วันนั้น 30 กันยา
วันนี้ก็กันยา...เหมือนกัน
หวังว่าฉันคงไม่เปลี่ยนงานทุกๆกันยานะ

หลังจากวันหนึ่งหมดแรงจากการหางานใหม่
ก็ไม่ได้อะไรต่อ
ค่อยๆ และปล่อยให้มันเป็นไป
..ตามที่ใครอยากจะกำหนด

จู่เช้าวันนั้น
เพื่อนคนนึงในโลกไซเบอร์ก็มาบอกว่า
"เฮ้ย ยูลองไปสมัครที่นี้มั้ย
ไอว่ายูน่าจะได้นะ"
มันเป็นบริษัทโมเดลลิ่ง
และเป็นงานบัญชี
ซึ่งความรู้ฉันก็มากมายเหลือเกิน
ตอนนั้นมีเวลา 1 วันในการเตรียมตัว
(เอ่อ คือ เยอะมากไง 1 วันเนี่ย)
เงินเดือนเรียกได้ว่าอยู่ในขั้นดึงดูด
เพราะฉะนั้นก็เลยบอกเท้าให้ก้าวเดิน

วันที่ไปสัมภาษณ์ครั้งแรก
ก็ได้เจอกับเพื่อนไซเบอร์คนนั้นเป็นครั้งแรกเช่นกัน
เค้าก็ดีมากพาไปดูสถานที่ นู่นนี่
แว่บแรกที่เห็นออฟฟิศก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
...เพราะฉันเคยมาที่นี่แล้วครั้งหนึ่ง...
...แต่มาในรูปของความฝัน...

วันนั้นก็เลยไม่ได้สัมภาษณ์
กลับไปอีกครั้งวันจันทร์
พบว่า...แม่บ้านที่นั่นเป็นคนต่างชาติ
สัญชาติคาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนบ้านเราทางภาคเหนือ
นั่นก็ไม่น่าตะลึงเท่ากับว่า...เค้าพูดได้สามภาษา
ภาษาไทยหล่อนนั้นไม่คล่อง
แต่อังกฤษนั้น...เล่นเอาชั้นอึ้งๆไปเหมือนกัน
(บางทีรถที่จอดอยู่อาจจะเป็นน้ำพักน้ำแรงของหล่อนก็ได้นะ)
ฉันเดาเอาน่ะ

จากนั้นฉันก็รอมาดามมา
จากเสียงตามสายที่เคยคุยกันแล้ว
คาดว่าหล่อนก็น่าจะมีอายุเหมือนกัน

(วันนั้น--ฉันเล่นของไปเยอะเหมือนกันนะ อิอิ)
(ไม่เชื่อ อย่าหลบหลู่)

รอ...
รอ...
รอ...

ขณะที่รอ...
ภาพจากล่องเสียงพูดได้เล่นเอาผิวหนังชั้นแทบไหม้
ทุกสิ่งอย่างเป็นอะไรที่เทรนดี้ และอิน
รวมถึงบรรยากาศในการทำงาน
การแต่งตัวของคนที่นั่น เล่นเอาฉันโก๊ะไปเลย
ไม่รู้จะเรียกได้ว่าอะไร...นอกจาก
(เริ่ม) กดดัน (ตัวเอง)

ปล่อยว่างและวาง
ฉันบอกตัวเองแบบนั้น

It's gonna be all right...(i guess)

และแล้ว สองชั่วโมงครึ่งผ่านไป
มาดามก็มา...
ความสวยของหล่อนทำเอาฉันโกรธไม่ลงเลย
นอกจากการแต่งตัวที่นีทแล้ว
การพูดจา ความฉลาดที่เห็นได้จากคำพูด
และดวงตาสีฟ้าที่บลิ้งๆ คู่นั้น
สะกดฉันนิ่งไม่ไหวติง
(เออๆ ของเค้าแรงเหมือนกันวุ้ย)

ฉันเองรู้สึกในใจเหมือนกันว่า
ชั้นจะได้งานนี้แน่
แต่ก็ไม่รู้ เพราะว่าไม่อยากคาดหวังอ่ะ
ฉันเคยคิดเล่นๆ เหมือนกันว่า
ยังไงลองดูเชิงเค้าก่อน
ถ้าอยากทำจริงๆ
ก็บอกเค้าเลยว่า ขอทำแบบไม่เอาตังค์เดือนหนึ่ง
คิดๆอยู่ แต่...ยังไม่มีโอกาสได้พูด...

มาดามไม่ได้ถามอะไรชั้นมากมาย
เริ่องทั่วไป
แล้วก็รับฉัน...

ง่ายใช่ม๊ะ
ฉันรู้สึกว่า...
ถ้ามันจะเป็นของเรา...
...เราก็แค่เล่นไปตามบทเท่านั้นเอง

ตอนนี้ฉันอยู่ในขั้นกำลังจะเปลี่ยนงาน
ฉันไม่อาจพูดได้ว่าฉันได้งานใหม่แล้ว
เพราะถ้าชั้นไม่ผ่านขั้นทดลอง
นั่นก็หมายถึง ฉันเสียเวลาไปและต้องหางานอีกครั้ง

แต่ฉันก็ไม่ได้คิดอย่างนั้นเสียทีเดียว
หากเอาเรื่องเงินหรือค่าตอบแทนเป็นตัวตั้ง
เริ่มตั้งแต่เกิดมา...เราก็ขาดทุนไม่รู้เท่าไหร่แล้ว
สิ่งที่จูงใจคงเป็น ความอยากลองมากกว่า
ฉันเองไม่แน่ใจว่า จริงๆแล้วจะทำได้มั้ยไอ้บัญชีเนี่ย
คนอื่นทำได้ ฉันก็น่าจะลองทำ...จริงมั้ย

ช่วงนี้เลยพยามหากำลังใจและให้กำลังใจตัวเอง
เผชิญกับสิ่งที่ตัวเองเลือก
ฉันไม่รู้หรอกว่า..
มันจะดีกว่าสิ่งที่มีและได้อยู่ในตอนนี้หรือเปล่า
ฉันก็แค่อยากลองมันไปเรื่อยๆ
จนกว่าจะเจอ
ฉันเองก็เชื่อว่าวันหนึ่งจะเจอ
หรือหากมันไม่เจอ
อย่างน้อย..ทางที่เดินมาฉันก็ได้รู้ว่ามันยังไม่ใช่
ฉันไม่รู้หรอกว่า
ครั้งนี้ความเสี่ยงสูงแค่ไหน
แต่ฉันว่า ยังไงๆ ก็อยากลอง...
และฉันก็เขียนบล็อกขึ้นด้วยความรู้สึก..
ที่มันอึน อึน บอกไม่ถูก
หนักใจ เศร้าใจ ลาจาก และไม่รู้...

I dont know...
It might be better...
But i still dont know...
It's just...

It can be right one...
Or maybe wrong...

I dont know...
I wanna give it a try...
That's what i knew...
And I guess...
That's enough to go beyond myself....

I dont know...




No comments: