Thursday, August 30, 2007

สองเงาในเกาหลี 1

หลังจากที่อ่านแฮร์รี่จบไป (นานแล้ว)
ก็หานู่นนี่มาอ่าน(เพิ่ม)ค่าเวลาไปวันๆ
และแล้ว อึนอึน ก็รื้อลังหนังสือขณะที่ฉันนอนหลับอยู่
และแล้วก็เลยได้ฤกษ์อ่าน
"สองเงาในเกาหลี" ของคุณทรงกลด บางยี่ขัน
ที่ซื้อมาตั้งแต่สัปดาห์หนังสือฯครั้งที่แล้ว
(มีนาคม ที่ผ่านมา--หรือเมษาเนี่ยแหละ)

อ่านไปได้ครึ่งเล่ม
หันไปกอดอึนอึนหลายที
(ขอบคุณที่อยู่ตรงนั้น)

เรื่องราวเป็นเรื่องของคุณก้องไปเที่ยวเกาหลี
---ไปคนเดียว---
ซึ่งเค้าเล่าว่าปกติก็ไปแบบนี้ประจำอยู่แล้ว
การดำเนินเรื่องน่าสนใจดี
มี "เรื่องราว" และ "ความคิดเห็น" ที่หลากหลายปะปน
ชอบที่เค้ามักจะตั้งคำถามกับตัวเองอยู่บ่อย
ซึ่งมันก็ทำให้เราอยากรู้คำตอบไปในตัว
และถามกลับตัวเองบ้างในหลายๆครั้ง
ท่าทางผู้ชายคนนี้มี "อะไร" อยู่ในตัวเยอะดีนะ
อ่านผลงานของเค้าหลายครั้งแล้วก็ไม่ติดตรึงเท่าเรื่องนี้
ภาษาและถ้อยคำที่ใช้เรียบง่ายแต่บรรยาย "ภาพ"
ให้จินตนาการตามได้อย่างไม่ตกหล่น
เล่นเอาหัวใจแอบหวั่นไหวและไหวหวั่นตามๆกันไป

ฉันเป็นอีกคนที่เชื่อในรักแรกพบ
แม้ว่าจะไม่เคยเจอกับตัวเองจังๆ สักที
แต่บ่อยครั้งก็แอบไหวหวั่นไปกับสายตาใครสักคนที่จ้องมองมา
รักแรกพบเป็น "ความบังเอิญ" หรือ "ความจงใจกันแน่"
...ให้เราสบตากันในครั้งนั้น...
แล้วใครกันที่กะเวลาได้พอดิบพอดีให้สายตาสองคู่นั้นประสานกันทันเวลา

รักแรกพบ
..สำหรับฉันเกิดขึ้นกับสถานที่..
..ไม่ใช่คน
..ครั้งแรกที่เห็น..ฉันก็รักอย่างยากจะถอนตัวได้ขึ้น

--^_^--

ฉันรักดอนเมือง--หรือสนามบินดอนเมือง--นามที่เราคุ้นหูกันอยู่
มันเป็นความรู้สึกที่ยากเกินกว่าจะอธิบาย
หัวใจมันเต้นโครมคราม ตื่นเต้น หวั่นไหว อ่อนไหว ไปกับหลายๆสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่นั่น

ณ ดอนเมือง..
ฉันเองเคยเป็นทั้งคนรอและผู้รอ
....เคยร้องไห้และหัวเราะ....
....เคยกอดและโดนกอด....
....เคยยิ้มแย้มและเศร้า....
....เคยหวังและหมดหวัง....

บางคนร้องไห้ เพราะดีใจเมื่อ "คนที่รอ" กลับมา
ขณะที่อีกหลายคนต้องเสียน้ำตาไปเพราะ "คนที่รัก" กำลังจากไป
เสียงหัวเราะ ความตึงเครียด รอยยิ้มและคราบน้ำตา
เรียกได้ว่าแทบจะทุกอารมณ์เกิดขึ้นอยู่ที่นี่
ขณะที่มองออกไปนอกกระจกบานโต...
เครื่องบินลำใหญ่กำลังหลับสนิทเพื่อเอาแรง
..ก่อนออกเดินทางไกลสู่จุดหมายต่อไปๆอีกครั้ง
รถกำลังเติมน้ำมันให้เจ้านกยักษ์
แอร์ครูว์กำลังช้อปปิ้ง
กัปตันนั่งสูบบุหรี่
และสถานการณ์อื่นๆที่ผู้คนกำลังทำ ณ จุดเวลาเดียวกัน
ต่างก็ทำหน้าที่ของตนเองที่ต้องแข่งกับเวลา
มันเป็นสิ่งที่ดูมีเสน่ห์สำหรับฉัน

จากประสบการณ์
ฉันเองก็เคยอยู่วงการนี้มาช่วงเวลานึง
ทำให้มองภาพรวมของธุรกิจการบินนี้ได้ง่ายและเข้าใจมากขึ้น
หากหลายคนเข้าใจว่าทำงานสายการบินนั้นเริ่ดหรู ดูดี ค่าตอบแทนสูง
ฉันตอบตรงนี้ได้ว่า...คงไม่ใช่สำหรับฉัน
คงจะมีเพียงแต่คำพูดที่ว่า
..หากได้ทำงานที่เรารักอย่างแท้จริง..ก็จะไม่รู้สึกว่าต้องทำงานอีกต่อไป..
จริงๆแล้ว มันมีอะไรมากกว่านั้น..มาก
แต่นั่นก็ ทำให้ฉันได้เรียนรู้เรื่องราว
..ที่ไม่มีหนังสือเล่มไหนๆบอกไว้อย่างมากมาย
แม้สถานการณ์นั้นอาจเกิดผลกระทบต่อรักแรกพบของฉัน
แต่ความรู้สึกนั้นก็ไม่ได้สั่นคลอนความรู้สึกที่มีต่อดอนเมืองให้ลดน้อยลงไป

ไม่ว่าดอนเมืองจะปิด เปิด หรือ เปิดใช้ใหม่อีก(กี่)หน
ภาพความทรงจำที่ฉันมี..
มันยังงดงามและชัดเจนอยู่เสมอ

นี่แหละรักแรกพบของฉัน
วันนี้เลยอยากจะบอกว่ารักนะ...และรักมานานแล้ว...
^_^

No comments: